วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

วรรคทองของกลอนข้อคิด


ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด
ใครเชิด  ใครแช่ง  ช่างเขา
ใครเบื่อ  ใครบ่น ทนเอา
ใจเรา  ร่มเย็น เป็นพอ
++++
แม้ไม่ได้ เป็นดอก กุหลาบหอม
ก็จงยอม เป็นเพียง ลดาขาว
แม้มิได้ เป็นจันทร์ อันพร่างพราว
ก็เป็นดาว ดวงแจ่ม แอร่มตา
+++
เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา
จงเลือกเอา ส่วนดี เขามีอยู่
เป็นประโยชน์ โลกบ้างยังน่าดู
ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย

เมื่อมั่งมี มากมาย มิตรหมายมอง

    เมื่อมั่งมี          มากมาย         มิตรหมายมอง    
 
เมื่อมัวหมอง      มิตรมอง          เหมือนหมูหมา


เมื่อไม่มี              หมดมิตร         มุ่งมองมา


เมื่อมอดม้วย      แม้หมูหมา       ไม่มามอง

วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

หน้าที่ของลูก 1 โดย พระสุธรรมเมธี (เขมกะ)

             พ่อ แม่ ผู้ให้กำเนิดชีวิตลูก
                   เนื่องด้วย พ่อแม่เป็นผู้มีพระคุณต่อลูกอย่างมากมายเหลือที่จะพรรณนาให้ครบถ้วนได้   ตั้งแต่ท่านทั้งสองเป็น   ผู้ให้กำเนิดชีวิตเราเป็นตัวตนขึ้นมาเป็นปฐมแล้วได้อุตส่าห์ถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดู ประคับประคองมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ซึ่งทั้งพ่อแม่ยังไม่มีโอกาสรู้เลยว่าลูกนั้นเป็นหญิงหรือชาย รูปร่างจะเป็นอย่างไร จะมีอาการครบ ๓๒ หรือตาบอด ขาด้วน ท่านทั้งสองก็ไม่คำนึง มีความดีใจแต่ว่าเราจะได้ลูกแล้ว ต้องทรมานคุณแม่อยู่ในครรภ์ให้เกิดความลำบาก อึดอัดถึง ๙-๑๐ เดือน ครั้นเวลาจะคลอดเล่า...ก็ทำทุกขเวทนาความเจ็บปวดให้เกิดแก่คุณแม่อย่างแสนสาหัสที่สุด จนท่านทนต่อความเจ็บปวดไม่ไหว ต้องร้องครวญครางออกมาก็มี บางทีท่านต้องพิกลกิการหรือตายไปเพราะการคลอดลูกก็มี โบราณจึงกล่าวไว้ว่า ศัตรูที่ยิ่งใหญ่ของสตรีคือ การคลอดลูก พอลูกออกมาแล้ว แลเห็นลูกสมบูรณ์  ปลอดภัย  พ่อแม่ ก็รู้สึกปลื้มใจ ถึงกับยิ้มทั้งน้ำตา นี่แสดงถึงน้ำใจของคุณแม่ที่มีความรักต่อลูกมากถึงขนาดไหน จะเอาอะไรมาเปรียบเทียบกับพระคุณของแม่ได้เล่า

วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ม.เมีย

   ม. เมีย นั้นหายาก       ต้องลำบากออกรถใหม่
 รับส่งแม้ใกล้ไกล              ใช้หยาดเหงื่อเปลืองน้ำมัน
 ซักผ้า ไม่ใช่ใคร                    หุงต้มไซร้ผัวทั้งนั้น
 พันธุ์ผัว คงหมดกัน       เพราะเมียนั้นเป็นจอมมาร
กลับดึก เพราะตีกอล์ฟ        โถเธอชอบแอบหน้าบ้าน
สากนี้ ตีกระบาล                  โอ้ยอดขวัญ แม่นจริงๆ
 ม.เมีย หรือ ม.แม่                ร้ายจริงแท้ แม่ยอดหญิง
 กลัวแล้วกลัวจริงๆ            เห็นตาหญิงพี่แทบตาย
แก่ง่าย แถมตายยาก      แม่ยอดรักคือมารร้าย
 ผัวคือ กระสอบทราย        ผัวทั้งหลายจำจงดี
 รักเมีย ต้องอดทน        ต้องเป็นคนเคารพเมีย
รักเมีย ต้องส่งเสีย        อย่าให้เมียต้องสงสัย

รักเมีย ต้องรักเดียว             อย่าได้เที่ยวไปรักใคร
 รักเมีย ต้องทำใจ                ถึงอย่างไรเธอก้อเมีย
รักเมีย อย่าขี้เหล้า        ถ้าเมียเหงาเราจะเสีย
รักเมีย อย่าอ่อนเพลีย        คนรักเมียต้องแข็งแรง

รักเมีย อย่าเที่ยวดึก           จะเกิดศึกผิดสำแดง
รักเมียอย่ารุนแรง                ค่อยๆ แซงอย่าขับไว
รักเมีย ต้องยอมเมีย      เพราะว่าเมียไม่ยอมใคร
 รักเมีย ต้องเข้าใจ       ไม่มีใครใหญ่กว่าเมีย

รักเมีย อย่าเถียงเมีย       คำพูดเมียใหญ่กว่าใคร
ชาติหน้า มีฉันใด                  จงจำไว้อย่ามีเมีย

กลอนรัก..(สามี)

รักผัวต้องอดทน         อย่าขี้บ่นให้รำคาญ
รักผัวต้องทำงาน        เรื่องการบ้านต้องทำเอง

รักผัวตามใจผัว           จะเลวชั่วผัวเราเอง
รักผัวต้องกลัวเกรง    ผัวนักเลงยิ่งน่ากลัว

รักผัวต้องทำใจ           ถึงอย่างไรมันก็ผัว
รักผัวต้องทำตัว         ให้เซ็กซี่นี่สำคัญ

รักผัวอย่ารุนแรง        เจอไฟแดงอย่าฝ่าฟัน
เที่ยวดึกช่างหัวมัน     กลับบ้านพลันต้องทำงาน

รักผัวตัวต้องฟิต         จับรีดพิษก่อนจากบ้าน
ผู้ตรวจไปนานนาน   กลับมาบ้านต้องชดเชย

รักผัวต้องเอาใจ         ชอบอย่างไรได้หมดเลย
แบบไหนที่ไม่เคย      ลองหมดเลยให้รู้ไป

รักผัวต้องแบบนี้        แล้วผัวจะหนีไปไหน
เจ้าชู้ให้รู้ไป...            สู้ไม่ได้(เดี๋ยวกลับ)มาตายรัง

กลอนรักเมีย

ภรรยา นั้นหายาก        ต้องลำบาก ออกรถใหม่
รับส่ง แม้ใกล้ไกล         ใช้หยาดเหงื่อ เพื่อน้ำมัน

ซักผ้า อย่าใช้ใคร         หุงต้มไซร้ เราทั้งนั้น
ถ้าเธอ รู้สึกคัน             เรารู้พลัน ต้องช่วยเกา

รักเมีย ต้องอดทน       ต้องเป็นคนเคารพเมีย
รักเมีย ต้องส่งเสีย       อย่าให้เมียต้องสงสัย

รักเมีย ต้องรักเดียว     อย่าได้เที่ยวไปรักใคร
รักเมีย ต้องทำใจ         ถึงอย่างไรเธอก้อเมีย

รักเมีย อย่ากินเหล้า       ถ้าเกิดเมา เราจะเสีย
รักเมีย อย่าอ่อนเพลีย   คนรักเมีย ต้องแข็งแรง

 รักเมีย อย่าเที่ยวดึก     จะเกิดศึก ผิดสำแดง
รักเมีย อย่ารุนแรง        ค่อยๆ แซง อย่าขับไว

รักเมีย ต้องยอมเมีย     เพราะว่าเมียไม่ยอมใคร
รักเมีย ต้องเข้าใจ        ไม่มีใครใหญ่กว่าเมีย

รักเมีย อย่าเถียงเมีย     คำพูดเมีย ใหญ่กว่าใคร
รักเมีย อย่ารักใคร        ทั้งหัวใจ ยกให้เมีย

ชีวิตนักเรียน

       
       ฉันนั้นคือ นักเรียน เพียรศึกษา      ตื่นเช้ามา มุ่งออก ลอกการบ้าน
คณิต วิทย์ อังกฤษนั้น ลอกกันลาน       เรื่องเกียจคร้าน ไม่หรอก ลอกลูกเดียว
      เวลาเรียน นั่งหลับ สัปปะหงก         ครูให้ยก มือตอบ ก็แอบเสียว
เวลาสอบ ตอบกัน มันนักเชียว              ครูเผลอเหลียว หันหลังถาม งามคะแนน
       เรื่องโดดเรียน เพียรนัก รักที่สุด      กลยุทธ์ ทิ้งร่ม เพื่อนชมเเม่น
บางครั้งก็โดดพลาดไม่ขลาดแคลน        ต้องถูกตี จนตูดแอ่น แสนจะอาย

                                               ชีวิตนักศึกษา
        ฉันนั้นคือนักศึกษา เพียรศึกษา       ตื่นเช้ามา มุ่งเข้าเรียน ขีดเขียนอ่าน
การบ้านมี วิชาไหน รีบทำงาน                เรื่องเกียจคร้าน ไม่หรอก ลอกลูกเดียว
       เวลาเรียน แอบเลี้ยงหมู สนุกนัก      เพื่อนพ้องจัก รีบอ่านเขียน เรียนถึงไหน
เวลาสอบ ขอลอกเพื่อน มีน้ำใจ               ฟังผลสอบ เมื่อไร ยังได้เอ


                                                                                      

วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ที่ใดมีรัก...ที่นั้นมีทุกข์

          ที่ใดมีรัก...ที่นั้นมีทุกข์ ได้ยินประโยคนี้ทีไรทำให้รู้สึกว่า มันยอมไม่ได้จริงๆ ที่จะมาโทษความรักว่าเป็นต้นเหตุของความทุกข์   ที่ใดมีรัก...ที่นั้นมีทุกข์ ช่วยอ่านกันใหม่อีกครั้ง แล้วพิจารณาด้วยใจ ว่าจริงๆแล้วเราทุกข์เพราะอะไร ....            ใบ้ให้ก็ได้จากตัวเรานี่แหละ  
         เคยได้ยินประโยคของเพลงนี้หรือเปล่า.......ดั่งในใจความบอกในกวี ว่า
ตราบใดที่มีรักย่อมมีหวังความหวังนี่เองที่ทำให้เราทุกข์ได้มากมายขนาดนี้...งง ล่ะสิ
ที่ใดมีรัก...ที่นั้นมีความหวัง...ที่ใดมีความหวังที่นั้นมีทุกข์ นี่คือนิยามความรักของแอ้มเอง
ความหวังทำให้คนเรารู้สึกเป็นทุกข์....หวังทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจ....หวังลมๆแล้งๆ

 เหมือนการคอยฝนในหน้าแล้ง   อย่าบอกเชียวนะ ว่า  คุณมีความรักที่ไม่ได้หวังผลตอบแทน
          หากคุณรักคนๆหนึ่ง คุณก็หวังที่จะให้เขารักตอบ   สักนิด” “สักครั้ง ก็ยังดี” “ขอเพียงแค่นั้นคุ้นๆหูคุ้นๆตาใช่ไหม เหล่านี้เป็นกำแพงที่เราสร้างขึ้น เพื่อยับยั้งความต้องการของเราเอง การยับยั้งความต้องการมันทรมานนะ คุณไม่รู้สึกเหรอ มันเป็นความทรมานจากการห้ามความรู้สึกตัวเอง หลอกตัวเองว่าอย่ารักมากไปกว่านี้เลย ทั้งๆที่ความจริงก้อรักไปแล้วหมดหัวใจ        
         รักและคิดถึง เมื่อรักแล้วก้อต้องคิดถึง เวลาที่คิดถึงคุณมีความสุขหรือเปล่า ความคิดถึงกับความโหยหา ต่างกันตรงไหน? เวลาที่เราคิดถึงใคร เราแอบคิดเสมอว่าเค้าจะคิดถึงเราอยู่บ้างไหม หรือคุณไม่เคยคิด   รู้สึกยังไงล่ะ.... ทรมานใช่ไหม ไม่ว่าเราจะรู้หรือไม่รู้ ว่าหวังแล้วจะมีผลอย่างไร เราก็จะทุกข์ตั้งแต่เราเริ่มหวังแล้ว เพราะความหวังมันจะมาพร้อมกับความกังวล และความไม่มั่นใจในสิ่งนั้น   
        หวังมาก ทุกข์มาก หวังน้อยทุกข์น้อย     ความหวังทำให้ชีวิตมีพลังใจ...ความหวังในความรัก... ทำให้เราตั้งใจเรียน       ผิดปกติ    (ทุกข์นะเนี่ย  ปวดหัวจะแย่)
         ความหวังทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่มีวันสมหวัง....ทำให้เราทรมานแทบขาดใจ
    

       ความรักเป็นสิ่งสวยงาม....ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการที่ทำให้เรามีความทุกข์ ...

             อยากหยุดเวลา ไว้ตรงนี้       ไม่อยากให้ 1 นาทีข้างหน้า มาถึง
เร็วเกินกว่า จะหาวิธีใด มาฉุดดึง    ไม่พอจะเอ่ย คำลึกซึ้ง ได้หมดใจ
            

           ขอเวลา ให้ฉันบ้าง                 อย่ารีบผลัก ความอ้างว้างมาให้
อย่าคิดง่าย ๆ ..แค่จากไป..      ..คิดยาก ๆ บ้างได้ไหม..
            คิดถึงสภาพฉันที่ไม่เหลือใคร.....แม้แต่เธอ.


            เธอคงไม่มีวันกลับมา   จึงปล่อยฉัน  ให้อ่อนล้าอยู่ตรงนี้
เจ็บปวดกับน้ำตาที่มี   ให้ฉันพร่ำเพ้อทุกนาที  โดยไม่เหลือใคร
    

    แต่อยากให้เธอรู้นะ  คนดี
ว่า  ฉันคนนี้  ยังคงรักเธอมากแค่ไหน
แม้ในวินาทีนี้  ที่เธอ  คิดถึงใคร
แต่หนึ่งลมหายใจ ยังมีอยู่ต่อไป เพื่อคิดถึงเธอ