5. ขอบเขตของการวิจัย
5.1 ด้านเนื้อหา การวิจัยในครั้งนี้ มุ่งศึกษาเฉพาะบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต รายวิชาทักษะภาษาไทยเพื่ออาชีพ รหัสวิชา 3000 -1101 แบ่งเป็น 3 หน่วยการเรียน ได้แก่
5.1.1 การเขียนโครงการ
5.1.2 บทร้อยกรองที่ใช้ในงานอาชีพ
5.1.3 การพูดในโอกาสต่างๆ
5.2 ตัวแปรในการศึกษา ครั้งนี้ ประกอบด้วย
5.2.1 ตัวแปรต้น (Independent Variable) ได้แก่ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต รายวิชาทักษะภาษาไทย เพื่ออาชีพ รหัสวิชา 3000 -1101
5.2.2 ตัวแปรตาม (Dependent Variable) ได้แก่ ผลการเรียนรู้ แยกเป็น
5.2.2.1 ประสิทธิภาพของบทเรียน
5.2.2.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
5.2.2.3 ความพึงพอใจในการเรียนรู้
5.3 ระยะเวลาในการวิจัย
5.3.1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 (พฤศจิกายน - ธันวาคม 2554 )
5.3.2 วิธีการเรียนและช่วงเวลาเรียน กลุ่มตัวอย่างจะเรียนด้วยตนเอง จากบทเรียนคอมพิวเตอร์ ช่วยสอนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต วิชาทักษะภาษาไทยเพื่ออาชีพ รหัสวิชา3000 -1101 โดยใช้ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 35 เครื่อง เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์
5.4 ด้านระเบียบวิธีวิจัย
5.4.1 การกำหนดแบบแผนการทดลอง
ในการวิจัยครั้งนี้ ได้กำหนดแบบแผนของการวิจัย เป็นการวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) ซึ่งการทดลองมีกลุ่มเดียว และมีการสอบก่อนเรียน และการสอบหลังเรียน โดยใช้รูปแบบการวิจัยแบบ One Group Pretest Posttest Design (พวงรัตน์, 2540 : 60) มีแบบแผนการทดลอง ดังนี้
ตารางที่ 3 - 1 แบบแผนการวิจัยแบบ One Group Pretest Posttest Design
สอบก่อน | ทดลอง | สอบหลัง |
T1 | X1 | T2 |
สัญลักษณ์ที่ใช้ในแบบแผนการทดลอง
X1 แทน การเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
T1 แทน การสอบก่อนเรียน (Pretest)
T2 แทน การสอบหลังเรียน (Posttest)
5.5 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย
5.5.1 บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต รายวิชาทักษะภาษาไทยเพื่ออาชีพ รหัสวิชา 3000 - 1101 เรื่อง การเขียนโครงการ บทร้อยกรองที่ใช้ในงานอาชีพ และการพูดในโอกาสต่างๆ
5.5. 2 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
5.5.3 แบบทดสอบวัดประสิทธิภาพของบทเรียน
5.5.4 แบบสอบถามความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต รายวิชาทักษะภาษาไทยเพื่ออาชีพ รหัสวิชา 3000 - 1101 เรื่อง การเขียนโครงการ บทร้อยกรอง ที่ใช้ในงานอาชีพ และการพูดในโอกาสต่างๆ แบ่งระดับความพึงพอใจ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตามวิธีการของลิเคร์ท
5.6 การเก็บข้อมูล ผู้ศึกษาได้เก็บข้อมูลกับกลุ่มตัวอย่างทั้ง 2 กลุ่ม คือ กลุ่มนักศึกษาที่เคยวิชานี้เรียนมาแล้ว จำนวน 35 คน กับกลุ่มที่ใช้ทดลอง จำนวน 35 คน เป็นนักศึกษา แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) วิทยาลัยเทคนิคยโสธร
5.7 สถิติที่ใช้ในการวิจัย
5.7.1 การหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต รายวิชาทักษะภาษาไทยเพื่ออาชีพ ใช้สูตรการหาประสิทธิภาพของบทเรียนตามเกณฑ์ 80/80 (เสาวณีย์, 2538 : 294) E1 / E2
5.7.2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนที่ใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต รายวิชาทักษะภาษาไทยเพื่ออาชีพ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน สถิติที่ใช้ทดสอบความแตกต่างของข้อมูล ใช้สูตร t- test (Dependent) (ล้วน และอังคณา, 2538:104)
5.7.3 การวิเคราะห์ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตรายวิชาทักษะภาษาไทยเพื่ออาชีพ ใช้แบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง และวิเคราะห์แบบสอบถาม โดยใช้สถิติ คือ ค่าเฉลี่ย (Mean) เพื่อใช้แปลความหมายของการทดสอบ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) (ล้วน และอังคณา, 2538 : 79)
5.8 ข้อตกลงเบื้องต้น
5.8.1 การวิจัยครั้งนี้ ไม่คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างเพศ วัย พื้นฐานทางเศรษฐกิจ และอารมณ์ของผู้เรียน
5.8.2 นักศึกษา เป็นผู้ที่มีความสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้พอสมควร เช่น เปิด – ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ ใช้แป้นพิมพ์และเมาส์ได้ และเปิดเล่นซีดีได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น