วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ชีวิตวิถีแห่งการแสวงหาความรัก โดย นาโก๊ะลี

     
             หลายครั้งที่มักจะพบว่า  ยามที่ได้เข้าไปพบเห็น  หรือเฉียดกรายเข้าไปในเหตุการณ์อันเกี่ยวเนื่องด้วยมิตรภาพ ความสัมพันธ์ที่แวดล้อมด้วยพลังของความรัก
         ในบรรยากาศแห่งความรักและมิตรไมตรีนั้น ไม่มากก็น้อย ไม่ว่าบุคคลผู้ผ่านเข้าไปพานพบนั้นจะเป็นคนที่มีพื้นฐานสันดานเยี่ยงไรก็ตาม คนผู้นั้นย่อมได้ซึมซับรับเอาบรรยากาศนั้น รู้สึกประทับใจ ซาบซึ้งตรึงอารมณ์ ดิ่งลึกดื่มด่ำความรักอันงดงามนั้น บางครั้ง ก็อดไม่ได้เมื่อบรรยากาศและความรู้สึกนั้นได้กระแทกเข้าไปถึงเบื้องลึกของหัวจิตหัวใจ จนน้ำตาหลั่งออกมาด้วยความอิ่มเอม และความจริงข้อหนึ่งก็คือเราสามารถพบบรรยากาศเช่นนี้ สนามพลังแห่งรักนี้ได้ทุกๆ วัน รอบๆ ตัวเรา บนรถเมล์ ข้างถนน ในตลาด ในโทรทัศน์ หนัง หนังสือ และสถานที่อีกมากมาย
         ชายหนุ่มคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า วันหนึ่งของเมื่อหลายปีก่อน บนรถเมล์สีส้มที่วิ่งระหว่างจังหวัดหนึ่งถึงจังหวัดหนึ่ง บ่ายของฤดูร้อนระอุอ้าว กับผู้คนที่แน่นขนัดในรถที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ บรรยากาศดูน่าเคร่งเครียด แต่ผู้คนทั้งหลายก็เก็บงำเอาไว้ ทั้งกระเป๋ารถเมล์ ทั้งผู้โดยสารต่างเงียบงัน ต่างก็อดทน เหงื่อไหลไคลย้อยด้วยกันถ้วนหน้า กระนั้น ไม่ว่ารถจะแน่นเพียงใด ก็ยังคล้ายจำเป็นที่จะต้องรับผู้โดยสารระหว่างทาง ทั้งมีผู้โดยสารที่ลงไปเป็นระยะ ระหว่างนั้นผู้โดยสารใหม่สองคนเป็นผู้เฒ่า ตา ยายขึ้นรถมา ผู้คนช่วยกันหาที่นั่งให้ยายได้แล้ว เหลือแต่ตา
         ชายหนุ่มคนหนึ่ง วางกระเป่าสะพายใบไม่ใหญ่นักลงบนฝาครอบเครื่องยนต์ที่ร้อน แล้วนั่งลงไป แล้วให้ตานั่งลงบนตัก หลายคนบนรถหันมายิ้มให้ บางคนช่วยถือของให้ตา วาระนั้นเอง ก่อเกิดพื้นที่แห่งความรัก บรรยากาศแห่งมิตรไมตรี สนามพลังแห่งมิตรภาพ อบอวลไปทั่วรถ แม้กระเป๋ารถเมล์ซึ่งน่าจะเป็นผู้ที่เคร่งเครียดที่สุด หงุดหงิดที่สุด กลับยังยิ้มแย้มช่วยเหลือผู้โดยสารที่ขึ้นและลงรถด้วยบริการอันดี   ดูเหมือนว่าการปรากฏขึ้นแม้เพียงเล็กน้อยของความรัก มันได้แผ่อานุภาพพลังมหาศาลออกไป และนั่นมิใช่เพียงสายลมที่ผ่านพัด แต่มันได้ชำแรกแทรกตัวเข้าไปในหัวใจส่วนที่ดีงามของผู้คน หากจะเปรียบเอาว่า ในหัวใจส่วนที่ดีงามของผู้คนมีเมล็ดพันธุ์แห่งความรัก การปรากฏขึ้นของมิตรภาพ คือสายฝนหลั่งชโลมรดความชุ่มชื้นลงไปในผืนแผ่นดินแห่งจิตวิญญาณ เมื่อนั้นเมล็ดพันธุ์แห่งความรักที่ฝังอยู่ในไร่หัวใจส่วนที่ดีงามจึงผลิใบ แตกยอด งอกงามงดงาม และหากฝนยิ่งตกลงมาบ่อยเท่าใด ต้นรักนั้นก็ยิ่งงอกงามงดงามมากขึ้น เร็วขึ้น มั่นคงแข็งแรง แผ่กิ่งก้านออกไปอย่างทรงพลัง
            ทั้งหมดนั้นคือภาพที่บ่งบอกชัดเจนยิ่งนักว่า   มนุษย์ทั้งหลาย นอกจากการหาอยู่หากิน แสวงหาความรู้ แสวงหาความหมายของชีวิต สิ่งสำคัญยิ่งก็คือการแสวงหาความรัก  ก็แล้วทำไมเราจึงดื่มด่ำความสุข เมื่อเราเห็นความรักระหว่าง ชีวิตต่อชีวิต นั่นก็เพราะว่าไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ไม่ว่าจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม ไม่ว่าคนผู้นั้นผู้ใดจะมีนิสัยสันดานหยาบกร้านเหี้ยมโหด หรือเอื้อเฟื้ออ่อนโยน เมื่อเขาทั้งหลายเพียงแต่ผ่านเข้าไป มองเข้าไปในพื้นที่แห่งความรักนั้น ไม่มากก็น้อย พวกเขาทั้งหลายก็ได้รดน้ำให้เมล็ดพันธุ์แห่งความรักในหัวใจของเขาอีกครั้งแล้ว.....(http://www.prachatai.com/column-archives/node/2756)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น